หากว่าจะเดินทางไปไหนด้วยรถยนต์ แล้วอยู่ ๆ รถมาสตาร์ทไม่ติดเอาดื้อ ๆ เป็นใครก็คงหงุดหงิดและรู้สึกเป็นกังวลด้วยกันทั้งนั้น และถ้ายิ่งอยู่ในเวลาที่ต้องรีบเดินทาง มีเรื่องเร่งด่วนด้วยล่ะก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ ไหนใจกังวลเรื่องเดินทาง ไหนจะกังวลเรื่องการแก้ไขซ่อมแซม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อย กรณีแบบนี้ก็ไม่สามารถขอชดเชยจากประกันภัย รถได้ด้วย แค่คิดก็ทำให้รู้สึกหนักใจแล้ว
ไม่มีใครอยากพบเจอปัญหาแบบนี้แน่ ดังนั้น ครั้งนี้เราจึงจะมาเผยให้ทุกคนได้ทราบว่าอยู่ ๆ ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็จะมี 4 ประการ จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลย
1.ปัญหาจากแบตเตอรี่
ในช่วงที่โควิดระบาดหนัก บางคนอาจจะต้องทำงานอยู่บ้าน แทบไม่ไปไหนเลย ทิ้งรถไว้หลายวันไม่ได้มีการสตาร์ท พอกลับมาจะขับขี่สักที สตาร์ทรถไปเครื่องก็เงียบ หากรถสตาร์ทไม่ติด ข้อแรก ๆ เลยที่เราจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนก็คือปัญหามาจากแบตเตอรี่รถยนต์ที่ไฟหมด หรือเสื่อมสภาพ ถ้าหากรถจอดไว้นานหลายวันโดยไม่มีการสตาร์ทเลยก็จะเกิดปัญหานี้ขึ้นได้
เนื่องจากว่าแบตเตอรี่จะมีการคายประจุไฟออกมาตลอดเวลาอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้มีการรับประจุไฟเพิ่มเข้าไป แบตเตอรี่ก็จะแห้ง หรือบางทีเราอาจไม่ได้ใช้รถแค่1 – 2วันเท่านั้น แต่ก็สตาร์ทไม่ติดเหมือนกัน หากเป็นเช่นนี้ก็เป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว
สำหรับการแก้ปัญหาในกรณีนี้ก็คือ ให้ทำการพ่วงแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันมี Power Bank สำหรับใช้พ่วงแบตเตอรี่แล้ว ก็ให้จั๊มสตาร์ทในกรณีแบตเตอรี่แห้ง ส่วนถ้าแบตเตอรี่เสื่อมหากพ่วงแบตเตอรี่ให้รถสตาร์ทได้แล้ว ควรขับไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทันที
2.ปั๊มติ๊กมีปัญหา
กรณีนี้มักเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้รถที่ไม่ถูกต้อง ใครที่ชอบขับรถจนน้ำมันเกือบหมดถังบ่อย ๆ ก็อาจจะเจอปัญหานี้ได้ เพราะการที่น้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อยจนติดก้นถังนั้น ทำให้ระบบการส่งน้ำมันไปยังห้องเผาไหมเพื่อทำการจุดระเบิดนั้นทำได้ไม่ดี ตรงนี้จะส่งผลต่อตัวปั๊มติ๊กทำให้เกิดร้อนและเสื่อมสภาพ เมื่อปั๊มติ๊กเสื่อมสภาพจึงไม่สามารถจุดระเบิดในการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้
การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ อย่าปล่อยให้น้ำมันเหลือติดก้นถังบ่อย และถ้าเกิดปัญหานี้แล้วเรียกช่างมาช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นจากนั้นนำรถเข้าอู่จะดีที่สุด
3.ไดชาร์จเสื่อม
เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดเช่นกัน ไดชาร์จจะเป็นตัวปั่นไฟส่งไปให้แบตเตอรี่ ถ้าอุปกรณ์นี้เสื่อมสภาพ ก็จะทำให้ปั่นไฟไม่ได้ รถก็จะดึงไฟจากแบตเตอรี่ไปใช้จนหมด ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด กรณีนี้ถ้าไดชาร์จยังเสื่อมไม่เยอะ ก็อาจพอที่จะพ่วงแบตเตอรี่ได้
แต่ถ้าหากว่าได้ชาร์จเสื่อมสภาพหนัก พ่วงแบตเตอรี่แล้วก็ยังสตาร์ทไม่ได้ อันนี้ก็ต้องเรียกช่างหรือเอารถเข้าอู่ได้เลย
4.ไดสตาร์ทเสีย
ถ้าคุณเลยเช็คแล้วว่าอุปกรณ์ทุกอย่างที่กล่าวมาในทุกข้อข้างต้นปกติดี แบตเตอรี่ยังใหม่ ไดชาร์จเพิ่งเปลี่ยนมา ปั๊มติ๊กก็ไม่มีปัญหา แต่รถก็ยังสตาร์ทไม่ติดอยู่ ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากได้สตาร์ทเสีย ตัวมอเตอร์สตาร์ทอาจไม่ทำงาน กรณีนี้ก็ให้เรียกช่างซ่อมได้เลย
นี่คือ 4 สาเหตุหลักที่มักทำให้รถสตาร์ทไม่ติด หากใครมีปัญหารถสตาร์ทไม่ได้ก็ให้รู้ไว้เลยว่าน่าจะเกิดจากปัญหาเหล่านี้ รู้แล้วก็ควรแก้ไขให้ถูกจุดจะได้ขับขี่เดินทางกันได้ และอย่าลืม จะขับขี่ก็ควรมีประกันรถดี ๆ ไว้เคียงคู่ ใครสนใจจะทำประกันหรือจะต่อประกันภัย รถ แต่ยังเลือกไม่ได้ มาเปรียบเทียบประกันที่ใช่กับ Easy Compare ได้เลย แล้วคุณจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ใช่สำหรับคุณได้ง่ายมากขึ้น